คุณสมบัติของผ้ากันไฟที่ใช้ในโรงงานแบบไหน ผ้ากันไฟที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่แข็งแกร่งและทนทานเป็นพิเศษ เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดเพลิงไหม้ โดยคุณสมบัติหลัก ๆ ที่ควรมีมีดังนี้:
1. ความทนทานต่อความร้อนสูง
ผ้ากันไฟควรสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้เป็นเวลานาน โดยไม่ลุกไหม้หรือเสื่อมสภาพ
ควรมีจุดหลอมเหลวหรือจุดติดไฟที่สูง เพื่อป้องกันการลุกไหม้เมื่อสัมผัสกับเปลวไฟหรือความร้อนจัด
2. ความแข็งแรงทางกายภาพ
ผ้ากันไฟควรมีความแข็งแรงทนทานต่อการฉีกขาด การเสียดสี และการกระแทก เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน
ควรมีโครงสร้างที่แน่นหนา เพื่อป้องกันการทะลุผ่านของสะเก็ดไฟหรือเปลวไฟ
3. คุณสมบัติไม่ลามไฟ
ผ้ากันไฟควรมีคุณสมบัติไม่ลามไฟ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไฟไปยังบริเวณอื่น ๆ
เมื่อสัมผัสกับเปลวไฟ ผ้าควรดับเองได้โดยเร็ว
4. ความทนทานต่อสารเคมี
ในโรงงานบางประเภท ผ้ากันไฟอาจต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ดังนั้น ควรเลือกผ้ากันไฟที่มีความทนทานต่อสารเคมี เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ
5. ความยืดหยุ่นและการใช้งาน
ผ้ากันไฟควรมีความยืดหยุ่น เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ได้ เช่น ใช้คลุมเครื่องจักร ใช้ทำม่านกันไฟ หรือใช้ทำชุดป้องกัน
ควรมีน้ำหนักเบา เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและใช้งาน
6. การรับรองมาตรฐาน
ควรเลือกผ้ากันไฟที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น UL, FM หรือ NFPA เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
วัสดุที่นิยมใช้
ผ้าใยแก้ว (Fiberglass): ทนความร้อนได้ดี ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับงานทั่วไป
ผ้าซิลิกา (Silica): ทนความร้อนได้สูงมาก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการป้องกันความร้อนสูง
ผ้าเคฟลาร์ (Kevlar): แข็งแรงทนทานสูง ทนต่อการฉีกขาด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูง
การเลือกผ้ากันไฟที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและลักษณะการใช้งานในโรงงานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของพนักงานและทรัพย์สิน