แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 35
1
หลายคนที่เคยผ่านการเข้ารับการจัดฟัน เมื่อจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องใส่เครื่องมือที่มีชื่อว่า รีเทนเนอร์ ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จักตัวอุปกรณ์ตัวนี้ ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใส่หลังการจัดฟันเพื่อคงสภาพฟัน ไม่ให้ฟันที่ผ่านการจัดแล้วเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม ผู้เข้ารับการจัดฟันที่ถอดเครื่องมือจัดฟันออกแล้ว จำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อให้ฟันได้คงสภาพฟันไว้ หากไม่ปฏิบัติตามก็มีโอกาสฟันล้ม ฟันเก หรือฟันห่างได้อีก


ในปัจจุบันรีเทนเนอร์มีให้เลือกหลายแบบทั้งชนิดถอดได้อย่างแบบใส แบบลวด และรีเทนเนอร์ชนิดติดแน่นที่ไม่ต้องถอดเข้าถอดออกทุกวัน แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป แต่ผู้เข้ารับการรักษาก็จะต้องสวมใส่รีเทนเนอร์ให้เหมาะสมกับช่องปากของตัวเองด้วย ดังนั้น รีเทนเนอร์จึงมีด้วยกัน 2 ชนิด ซึ่งเป็นแบบใสและแบบลวด และวันนี้ทางคลินิกเราจะมาแนะนำประเภทของรีเทนเนอร์ให้ได้รู้จักกัน และแนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษาได้ใช้รีเทนเนอร์อย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง ทำให้เรามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ

สำหรับรีเทนเนอร์แบบแรกที่เราจะมาพูดถึงคือรีเทนเนอร์แบบลวด ที่มักพบเห็นได้ทั่วไป รีเทนเนอร์แบบลวด ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเลือกสีหุ้มลวดด้านหน้าได้ตามใจชอบ หรือจะไม่หุ้มก็ได้เช่นกัน รีเทนเนอร์แบบลวดมีความคงทนกว่าแบบใส และทำความสะอาดได้ง่ายกว่า หากเกิดอาการใส่แล้วหลวม ไม่กระชับ แน่น เกินไป ทันตแพทย์ก็สามารถแก้ไขได้ ไม่ต้องทำใหม่เหมือนแบบใสได้ เพราะฉะนั้น ในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาด การใช้งาน ความสะดวก จึงดีกว่ารีเทนเนอร์แบบใส นอกจากนี้ รีเทนเนอร์แบบลวดทำจากอคริลิก ที่ออกแบบมาพอดีกับช่องปากของผู้เข้ารับการรักษา ส่วนด้านหน้าจะเป็นลวดโลหะ มีหน้าที่ ครอบซี่ฟันเพื่อป้องกัน การเคลื่อนที่ของฟัน การใส่รีเทนเนอร์แบบลวดควรใส่ตลอดเวลา และควรถอดเวลารับประทานอาหาร ซึ่งระยะเวลาในการใส่จะขึ้นอยู่การพิจารณาของทันตแพทย์ สำหรับข้อดีของรีเทนเนอร์แบบลวดคือ มีความมั่นคง แข็งแรง และลดปัญหาในเรื่องของน้ำลายขังภายในรีเทนเนอร์  และข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบลวด ก็คือ อาจจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึก ไม่มั่นใจเวลาจะพูด ยิ้มต่อหน้าคนอื่น เพราะจะเห็นลวดอยู่ในปาก และในบางครั้งลวดอาจจะ โดนเหงือกและกระพุ้งแก้ม ทำให้เกิดการระคายเคืองได้


ต่อมารีเทนเนอร์แบบใส จะทำจากพลาสติก ใส่ครอบฟัน 6 เดือนแรก หลังจากถอดเหล็กดัดฟัน ผู้เข้ารับการรักษาควรสวมใส่รีเทนเนอร์ไว้ตลอด และหลีกเลี่ยงอาหาร เครื่องดื่มร้อน ส่วน 6 เดือนหลัง และสามารถใส่รีเทนเนอร์เฉพาะตอนนอนได้ โดยรีเทนเนอร์แบบใสมีอายุการใช้งาน 1-2 ปี เมื่อผู้เข้ารับการรักษาสวมใส่แล้วดูเป็นธรรมชาติ เพราะจะมองเห็นได้ไม่ชัดมากเท่าไหร่ และยังสามารถล็อกฟันไว้ทุกตำแหน่งให้คงสภาพดีกว่าแบบลวด แต่ถ้าผู้เข้ารับการรักษาไม่สวมใส่รีเทนเนอร์ทุกวัน ก็จะส่งผลให้ฟันจะมีการเปลี่ยนแปลง คลาดเคลื่อนได้ ทำให้ใส่รีเทนเนอร์กลับไม่ได้ ทำให้ต้องเสียเงินเสียเวลาไปทำใหม่ เพราะรีเทนเนอร์แบบใสก็ไม่สามารถแก้ไขได้


และในขั้นตอนของการทำความสะอาด รีเทนเนอร์แบบใสจะทำความสะอาดได้ยากกว่าแบบลวด และ เสี่ยงต่อการชำรุดเสียหายได้ สำหรับข้อดีของรีเทนเนอร์แบบใส คือ จะทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกมั่นใจ เพราะการใส่รีเทนเนอร์แบบใสนั้น สามารถมองเห็นได้ยาก ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่รีเทนเนอร์แบบลวด และมีข้อเสียคือ ข้อเสีย คือ รีเทนเนอร์แบบใสจะไม่คงทนแบบรีเทนเนอร์แบบลวด และอาจจะฉีกขาดได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตามทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนหมั่นดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับช่องปาก ทำให้มีฟันที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ มั่นใจมากยิ่งขึ้น

 

จัดฟันบางนา: รีเทนเนอร์มีกี่ประเภท อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

2
การจัดฟันในเด็ก เป็นการรักษาทางทันตกรรมสำหรับเด็ก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หลายคนมองว่า การจัดฟันนั้น มักจัดฟันในช่วงที่มีฟันแท้ขึ้นครบ คือ อายุประมาณ12-15 ปี ซึ่งการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันนั้นมีด้วยกันหลายช่วงอายุ คือ สามารถจัดฟันตั้งแต่ในเด็กถึงผู้ใหญ่เลย แต่ต้องพิจารณาตามความผิดปกติและพัฒนาการขอกะโหลกศีรษะและใบหน้าร่วมด้วย แต่หากมีความผิดปกติของความสัมพันธ์ของกระดูกขากรรไกรบน-ล่าง ก็ควรจะเริ่มการรักษาตั้งแต่อายุยังน้อย


เพราะในเด็กจะสามารถแก้ไขปัญหาความผิดปกติในเรื่องขอฟันได้ดีกว่า และไม่ซับซ้อน เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปยังฟันซี่อื่นๆต่อไป ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถนำเด็กๆ อายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่นหรือไม่ต้องรอให้ฟันน้ำนมหลุดออกหมด อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในเด็กนั้น ก็มีด้วยกัน สองวิธีที่เป็นที่นิยมและสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นั่นก็คือ การจัดฟันในเด็กแบบใช้เครื่องมือ EF LINE และการจัดฟันในเด็กที่ใช้เหล็กจัดฟันหรือเครื่องมือแบบติดแน่นที่เรามักจะคุ้นตากันอยู่แล้ว แต่พ่อแม่ผู้ปกครองจะรู้ได้อย่างไรว่า บุตรหลานของท่าน เหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันในรูปแบบใด หรือ การจัดฟันในเด็กแบบไหนจะมีประสิทธิภาพหรือดีกว่ากัน วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็กทั้งสองรูปแบบ ว่าแบบไหนเหมาะสมหรือการจัดฟันแบบไหนจะมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาฟันได้ดีกว่า เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้เป็นแนวทางในการศึกษาข้อมูลเพื่อที่จะได้พาบุตรหลานของท่านเข้ารับกาจัดฟันในเด็กและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดจริงๆ

 
ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็กแบบใช้เครื่องมือ EF LINE ก่อน ซึ่งการจัดฟันในเด็กแบบ EF line คือ นวัตกรรมการจัดฟันรูปแบบใหม่ ที่ทำให้เด็กเล็กสามารถจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบขึ้นไป ด้วยกระบวนการจัดฟัน โดยอาศัยแรงที่ได้จากกล้ามเนื้อให้เกิดการปรับโครงสร้างกระดูกใบหน้าและให้มีการเรียงตัวของฟันที่สวยงาม ซึ่งใช้ชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น


ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 4 ขวบ เพราะเด็กในวัยนี้ยังไม่สามารถให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ในการรักษาได้ จึงเหมาะกับเครื่องมือ EF LINE มากกว่า ส่วนการจัดฟันในเด็กโดยใช้เครื่องมือแบบติดแน่น


เป็นการรักษาทางทันตกรรมด้วยการใช้เหล็กจัดฟัน เหมือนที่เราเห็นได้บ่อย เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 7-15 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเด็กในวัยนี้เริ่มที่จะมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันในขณะที่เข้ารับการจัดฟันอยู่ สามารถให้ความร่วมมือในการรักษากับทันตแพทย์ได้เป็นอย่างดี จึงจะทำให้การจัดฟันมีความประสบความสำเร็จ และมีผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ


ดังนั้น หากพูดถึงแง่ของประสิทธิภาพของการจัดฟันทั้งสองรูปแบบ ต้องบอกว่า มีข้อดีต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัยและปัญหาของฟันของเด็ก เพราะการจัดฟันในเด็ก สิ่งที่สำคัญก็คือ การร่วมมือกับทันตแพทย์ หากเด็กไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา ก็อาจจะทำให้การจัดฟันไม่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวนั่นเอง จึงสรุปได้ว่า การจัดฟันทั้งสองรูปแบบมีประโยชน์ต่อเด็กอย่างแน่นอน หากได้รับการรักษาที่เหมาะสม และการร่วมมือที่ดีของผู้เข้ารับการจัดฟัน

 
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะสอนให้ลูกรู้จักวิธีการดูแลรักษาความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี ควรปลูกฝังให้เด็กตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาฟันในอนาคต มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากท่านสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กด้วย EF Line หรือการจัดฟันในเด็กแบบใช้เครื่องมือแบบติดแน่น สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทันตกรรมในเด็ก สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่มากขึ้น มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัยและเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น



จัดฟันเด็กแบบไหนดีกว่ากัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

3
สุขภาพปากและฟัน มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมีมากมายมีผลกระทบกระเทือนต่อภาวะโภชนาการของเด็ก ซึ่งล้วนแล้วแต่สามารถป้องกันได้เกือบทั้งสิ้น การดูแลสุขภาพฟันในเด็กถือเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่ดูแลเอาใจใส่ให้มาก ควรปลูกฝังให้เด็กฝึกหัดแปรงฟันอย่างถูกวิธี หมั่นตรวจฟันลูกหรือหัดให้ลูกตรวจฟันด้วยตนเองทุก ๆ วันหลังแปรงฟัน และควรพาไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี นอกจากนี้สุขภาพช่องปากและฟัน สามารถดูแลรักษาและบำรุงได้ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผัก ผลไม้สด และนมสด เพื่อที่จะได้กระตุ้นขากรรไกรของเด็กให้เจริญเติบโตได้สัดส่วน และควรจะให้เด็กลดการกินลูกอม ขนมหวานหรืออาหารที่เป็นการทำลายฟันด้วย ในปัจจุบันวงการทันตกรรมได้มีการพัฒนา โดยเด็กสามารถจัดฟันได้เหมือนผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังมีฟันน้ำนมอยู่ก็ตาม เพราะเป็นการแก้ปัญหาฟันผิดปกติของเด็ก ๆ โดยไม่ต้องรอให้โต โดยช่วยให้สุขภาพฟันดี และรองรับการขึ้นของฟันแท้ในอนาคตได้ด้วย


โดยการ จัดฟันในเด็ก สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 6-7 ขวบ พ่อแม่ผู้ปกครองควรนำเด็ก ๆ อายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์ผู้ทำการจัดฟันได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่นเพราะเป็นช่วงที่ฟันกำลังพัฒนาและขากรรไกรกลังเจริญเติบโต และถ้าตรวจพบปัญหาฟันซ้อน การสบฟันผิดปกติ จะสามารถแก้ไขได้ง่ายมากกว่าการจัดฟันตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้อดีของการจัดฟันในเด็ก ก็คือ ทำให้การขึ้นของฟันแท้ สามารถขึ้นได้อย่างถูกต้อง และจะไม่มีความผิดปกติในการขึ้นของฟันแท้ ทั้งยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหา ความผิดปกติของโครงหน้าได้อีกด้วย พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะหมั่นดูแล สังเกตความผิดปกติของฟันของเด็กอย่างสม่ำเสมอ หากมีความผิดปกติหรือสัญญาณที่บ่งบอกว่า เด็กมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ควรรีบพาไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข ที่คลินิกเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสุขภาพช่องปากของเด็ก และยังมีบริการการจัดฟันในเด็ก ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันของเด็กได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เด็กเติมโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจในรอยยิ้มและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่


สำหรับสัญญาณที่บ่งบอกว่า เด็กควรเข้ารับการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติ คือเด็กที่มีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่มีปัญหาฟันหน้ายื่น เพราะปัญหาดังกล่าว ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแตกหักของตัวฟัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม ตกบันได ซึ่งอาจจะได้รับอันตรายต่อสุขภาพฟันอย่างมาก หากเกิดอุบัติเหตุ


และเด็กที่มีปัญหาการที่ฟันสบกันผิดปกติ เพราะอาจทำให้ขากรรไกรเติบโตแบบไม่สมดุลกัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการขึ้นของฟันแท้ได้ เด็กที่มีปัญหาช่องฟันห่าง เพราะช่วยปรับให้ซี่ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และง่ายต่อการขึ้นของฟันแท้ เด็กที่มีปัญหาในเรื่องของขากรรไกรไม่ได้สัดส่วนกับหน้า เพราะเจริญเติบโตผิดปกติ


การกลืนอาหารผิดปกติ นอกจากนี้การจัดฟันในเด็กยังสามารถครอบคลุมไปถึงปัญหาพฤติกรรมของเด็ก คือ

    เด็กที่ดูดนิ้ว
    กัดเล็บ
    กัดสิ่งของเป็นประจำ
    นอนหายใจทางปาก


ซึ่งการจัดฟันก็สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วย หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำหรือพาบุตรหลานของท่านเข้ามาตรวจประเมินช่องปากก่อนได้ จากทางคลินิกทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดฟันในเด็ก ยินดีให้คำปรึกษา เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อปลูกฝังให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาดและใส่ใจสุขภาพช่องปากและฟันด้วย



เด็กที่มีปัญหาสุขภาพฟันแบบไหน ที่ควรเข้ารับการจัดฟันเด็ก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

4
5 ข้อเท็จจริงของกระชายขาว

กระชายขาว สมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยมนอกเหนือจากฟ้าทะลายโจร ที่ยังคงกำลังทำการวิจัยในห้องทดลอง แต่ก่อนที่จะนำกระชายขาวไปใช้เพื่อสร้างภูมิต้านทานโรคโควิด-19 นั้น เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ กระชายขาว ใน 5 ข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้กันก่อนดีกว่า


กระชายขาว สารสกัด มีฤทธิ์ต้าน COVID-19 ด้วยสารยับยั้ง

Pinostrobin และ Panduratin A ซึ่งอยู่ในหลอดทดลอง

1.    หากรับประทาน กระชายขาว ในปริมาณมากเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาเหงือกร่น ใจสั่นได้ อีกทั้งยังอาจส่งผลต่อการทำงานของตับ

2.    กระชายขาว เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน อาจทำให้เกิดโรคร้อนใน หรือ แผลในปากได้

3.    การนำ กระชายขาว ไปใช้ในช่วงนี้ ควรอยู่ในรูปของสารสกัด เพราะสามารถรับรู้ปริมาณสำคัญที่จะออกฤทธิ์ได้อย่างแน่นอน

4.    และสามารถคุมโดส คุมประมาณสารสำคัญในการรักษาได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

5.    อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทดลองศึกษาวิจัยในคน โดยโครงการวิจัยต้านเชื้อไวรัสโคโรนาจากสมุนไพรไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS

ซึ่งตอนนี้ทางหน่วยงานวิจัยกำลังอยู่ในขั้นตอนทำการวิจัย กระชายขาว
เพื่อนำผลวิจัยนั้นไปต่อยอดในการรักษาโรคโควิด-19 ต่อไปค่ะ
นอกจากการรับประทานสมุนไพรอย่าง กระชายขาว ก็อย่าลืมที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอและ ดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน



กระชายพลัส: ข้อเท็จจริงของกระชายขาว กับ โควิด-19 ที่คุณอาจยังไม่รู้  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

5
ระบบประสาทจะทำงานได้ดีขึ้นต้องหมั่นฝึกฝนและใช้งาน ซึ่งการกินอาหารก็มีส่วนช่วยให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น

          วิตามินบี 1

                               เติมพลังงานให้ร่างกาย : ธัญพืชต่างๆ ข้าวกล้อง ข้าวธัญพืช เมล็ดทานตะวัน กะหล่ำดอก มันฝรั่ง

          วิตามินบี 2

                               ต้านอนุมูลอิสระ : นมวัว ชีส ผักใบเขียว ตับ ถั่วเขียว ถั่วแดง เห็ด อัลมอนด์

          วิตามินบี 6

                                สร้างเม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง : เนื้อสัตว์ทุกชนิด ผักเกือบทุกชนิด ถั่วขบเคี้ยว กล้วย

          วิตามินบี 12

                               บำรุงสมอง : ปลา เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ไข่ นม

          โอเมก้า 3

                               บำรุงความจำ : ปลาช่อน ปลาดุก ปลาแซลมอน

          Resveratrol (เรสเวอราทรอล คือสารที่ช่วยในเรื่องชะลอวัยชนิดหนึ่ง)

                               ป้องกันความจำเสื่อม : องุ่นแดง ช็อกโกแลต บลูเบอร์รี่

          วิตามินอี

                               ผิวสวยสดใส : เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ ผักโขม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว


5 อาหารบำรุงสมอง ลดความเสี่ยงสมองเสื่อม

สมองถือว่าเป็นส่วนที่ควบคุมอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย และมีส่วนสำคัญในเรื่องของกระบวนการเรียนรู้และความจำ เชื่อว่าใครหลายๆ คนพอเราอายุมากขึ้นเซลล์สมองของเราก็จะเสื่อมไปตามวัย แต่จะเสื่อมช้าหรือเสื่อมเร็วขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกิน

เราก็มี 5 อาหารบำรุงสมอง ที่ช่วยให้ทุกคนมีความจำที่ดีและลดความเสี่ยงสมองเสื่อมมาฝากทุกคนกัน

1. วิตามินบี 1 จะช่วยเกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ พบในเนื้อหมู เมล็ดทานตะวัน ข้าวซ้อมมือ ซึ่งจะพบมากที่เปลือก และจมูกของข้าว

2. วิตามันบี 6 จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรงช่วยชะลอวัย พบมากในเนื้อสัตว์ ปลา ไก่ตับ มันฝรั่ง กล้วย แตงโม นม ไข่แดงข้าวกล้อง รำข้าว จมูกข้าวสาลี ถั่วต่าง ๆ เมล็ดงา

3. วิตามินบี 12 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ทำให้ความจำระยะสั้นดีขึ้น ลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุราว 4 เท่า พบในกลุ่มเนื้อสัตว์ นม เนย ไข่แดง โยเกิร์ต

4. วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และทำให้หลอดเลือดแข็งแรง พบในส้ม ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี ผักโขม แคนตาลูป มะเขือเทศ มะละกอ มันฝรั่ง ฝรั่ง และสับปะรด

5. วิตามินอี คุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยบำรุงสมอง ดวงตา ผิงหนัง และเซลล์ในร่างกายของเราอีกด้วย วิตามินอีสามารถพบได้ทั่วไปในอาหาร เช่น ในถั่วอัลมอนด์ มะเขือเทศผักโขม และน้ำมันมะกอก

การให้ความสำคัญกับอาหารสมอง ด้วยการเลือกอาหารที่เหมาะสมร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยให้มีสมองที่เปี่ยมประสิทธิภาพอยู่กับเราไปได้นาน ๆ นั่นเอง


วิตามินบำรุงสมอง: อาหารบำรุงระบบประสาท อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

6
เมื่อเกิดอาการเมารถ การทราบวิธีแก้เมารถจะช่วยป้องกันและดูแลอาการที่เกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเมารถ (Motion Sickness) เป็นอาการไม่สบายตัว เวียนหัว มีเหงื่อออก คลื่นไส้ และอาเจียน ซึ่งเกิดขึ้นขณะเดินทางด้วยยานพาหนะที่การเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นรถ เรือ และเครื่องบิน

อาการเมารถเกิดได้กับทุกคน แต่จะพบบ่อยในเด็กอายุ 2–12 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคไมเกรน และผู้ที่มีประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวเร็ว โดยปกติแล้ว อาการเมารถมักดีขึ้นหลังจากลงจากยานพาหนะ แต่บางคนอาจมีอาการต่อเนื่องจนทำให้การท่องเที่ยวหมดสนุก ดังนั้น คนที่มีอาการเมารถควรรู้วิธีแก้เมารถและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง


รวมวิธีแก้เมารถที่ควรรู้

คนที่มีอาการเมารถบ่อย หรือเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเมารถได้ง่ายอาจลองใช้วิธีแก้เมารถต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ระวังเกี่ยวกับการกินอาหารก่อนเดินทาง

วิธีแก้เมารถก่อนการเดินทางคือไม่ควรกินอาหารปริมาณมาก อาหารที่มีไขมันสูง และมีรสเผ็ดจัด เพราะจะทำให้รู้สึกไม่สบายท้องและรู้สึกคลื่นไส้ขณะกำลังเดินทางมากกว่าเดิม หากรู้สึกหิว ควรกินอาหารเบา ๆ รองท้อง เช่น ซีเรียล แครกเกอร์ โดยกินก่อนการเดินทางประมาณ 1–2 ชั่วโมง และควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนการเดินทาง 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการเวียนศีรษะและคลื่นไส้


2. พกยาแก้เมารถติดกระเป๋า

คนที่เสี่ยงต่อการเมารถหรือประสบปัญหาเมารถเป็นประจำควรเตรียมยาแก้เมารถไว้ทุกครั้งที่เดินทาง โดยยาแก้เมารถที่สามารถหาซื้อได้เอง เช่น ไดเมนไฮดริเนต (Dimenhydrinate) และเมคลิซีน (Meclizine) โดยควรกินยาก่อนออกเดินทาง 30–60 นาที

ผู้ที่มีอาการเมารถรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาป้องกันอาการเมารถ ซึ่งแพทย์อาจสั่งจ่ายยากิน เช่น เมโทโคลพราไมด์ (Metoclopramide) และโปรเมทาซีน (Promethazine) หรือยาสโคโปลามีน (Scopolamine) ชนิดแผ่นแปะหลังหู

ทั้งนี้ ยาแก้เมารถทุกชนิดควรใช้ตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะเด็ก ผู้ที่ตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว เนื่องจากยากลุ่มนี้อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ง่วงซึม ผู้ใช้ยาแก้เมารถไม่ควรขับรถ เพราะอาจทำให้หลับในและเกิดอุบัติเหตุได้


3. เลือกที่นั่งให้เหมาะสม

การเลือกที่นั่งเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้เมารถที่สามารถเตรียมตัวได้ล่วงหน้า โดยมีเทคนิคเลือกที่นั่งขณะเดินทางด้วยยานพาหนะต่าง ๆ ดังนี้

    การเดินทางด้วยรถ ควรเลือกที่นั่งเบาะหน้า หากนั่งรถโดยสารควรเลือกที่นั่งที่อยู่แถวหน้า ๆ เพราะเป็นตำแหน่งมีแรงกระเทือนน้อย นอกจากนี้ ควรนั่งหันหน้าไปทางเดียวกับที่รถเคลื่อนตัว สำหรับเด็กเล็กและทารก ผู้ปกครองควรเตรียมคาร์ซีท (Car Seat) ที่เหมาะสมกับอายุและขนาดตัวของเด็ก เพื่อความปลอดภัยขณะเดินทาง
    การเดินทางด้วยรถไฟ ควรเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง ที่นั่งควรอยู่แถวหน้า และหันหน้าไปทางเดียวกับที่รถเคลื่อนตัว
    การเดินทางด้วยเรือ เลือกที่นั่งบริเวณหัวเรือหรือกลางลำเรือ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใกล้กับระดับน้ำและโคลงเคลงน้อย หลีกเลี่ยงการนั่งใกล้บริเวณที่มีกลิ่นอาหาร น้ำมันเครื่อง และควันจากท่อไอเสีย
    การเดินทางด้วยเครื่องบิน ควรเลือกที่นั่งริมหน้าต่างบริเวณด้านหน้าของปีกเครื่องบิน และหลีกเลี่ยงการนั่งใกล้ห้องน้ำและบริเวณที่เตรียมอาหาร


4. ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ

วิธีแก้เมารถที่หลายคนนึกไม่ถึงคือการทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่กังวลไปก่อน โดยหายใจเข้าออกลึก ๆ  ฟังเพลงสบาย ๆ และพูดคุยกับคนที่เดินทางไปด้วยกัน ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนได้


5. หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอาการเมารถ

หากเริ่มมีอาการเมารถ ควรหยุดการอ่านหนังสือ การเล่นเกม หรือการชมภาพยนตร์ ควรหาจุดโฟกัสโดยมองออกไปไกล ๆ นอกหน้าต่าง หากมีอาการเมารถมาก ควรนั่งนิ่ง ๆ และหลับตาลงจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น

หากได้กลิ่นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น กลิ่นอาหารและบุหรี่ ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ดมยาดม หรือเดินออกไปสูดอากาศที่ด้านนอก


6. กินอาหารที่สบายท้อง

ระหว่างเดินทางควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารทอด อาหารรสจัด เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ ควรกินอาหารเบา ๆ เช่น แครกเกอร์ ขนมปัง ธัญพืชอบ และกล้วยหอม จิบน้ำเย็น น้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลม เพื่อเพิ่มความสดชื่น นอกจากนี้ การกินลูกอมรสขิงก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้เมารถที่ได้ผล เพราะขิงมีสรรพคุณลดการคลื่นไส้และอาเจียน

โดยทั่วไป อาการเมารถมักดีขึ้นหลังจากที่ลงจากยาพาหนะ แต่กรณีที่มีอาการเวียนศีรษะอย่างต่อเนื่อง อาเจียนไม่หยุด บ้านหมุน ได้ยินเสียงในหูหรือการได้ยินลดลง และแน่นหน้าอก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

6 วิธีแก้เมารถที่สายเดินทางควรรู้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

7
รับออกแบบบ้าน
รับออกแบบบ้าน ตามความต้องการ
และงบประมาณ ของเจ้าของบ้าน
ฟังก์ชั่นครบ ดีไซน์สวย สร้างได้จริง
ปรับแบบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

รับสร้างบ้าน
รับสร้างบ้าน และควบคุมงานโดยทีมสถาปนิก-วิศวกร
ที่มีใบอนุญาต ทีมงานประสบการณ์สูง
เราเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมรับประกันความพึงพอใจ
บ้านสวย แข็งแรง ทนทาน เสร็จตรงตามเวลา
งบประมาณไม่บานปลาย
กว่า 20 ปี กับงานบริการ

บริษัทรับสร้างบ้าน และออกแบบบ้าน รับประกันคุณภาพมาตรฐานบ้านทุกหลัง


BEST BUILD DESIGN AND CONSTRUCTION
บริษัท เบสท์ บิลด์ ดีไซน์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (สำนักงานใหญ่)
148/2 ซอยปราโมทย์ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 15000
โทร. 0997829415


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
Page FB : https://www.facebook.com/AiForRealEstate
เว็บไซด์ : https://luxuryhomesdesigns.com/
เบอร์โทร : 099-782-9415


8
รับผลิตชุดยูนิฟอร์มทุกประเภท
บริการจริงใจ ใส่ใจลูกค้า ราคายุติธรรม
รับผลิตและแนะนำรูปแบบชุดยูนิฟอร์มบริษัท อาทิเช่น เสื้อยืดคอกลม เสื้อยืดโปโล ชุดช็อป เสื้อแจ๊กเก็ต และ ชุดยูนิฟอร์มพนักงานในสำนักงาน โดยสามารถสั่งตัดตามไซส์ของแต่ละบุคคลได้ รวมถึงสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ เช่น ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าผ้า หมวก เป็นต้น

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน “ยูนิฟอร์ม” หรือ Uniform ในภาษาอังกฤษคือเสื้อผ้าหรือชุดที่พนักงานหรือกลุ่มคนบางๆ สวมใส่เพื่อแสดงตัวตนหรือตำแหน่งที่มีอยู่ เพื่อความสะดวกในการระบุและการระบายตัวเองในบริบทที่ต่างๆ ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานมักจะมีการออกแบบเพื่อสอดคล้องกับลักษณะงานและศิลปะแบรนด์ขององค์กรหรือธุรกิจที่ต่างกันไปได้ เช่น ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานโรงแรมจะแตกต่างกับชุดยูนิฟอร์มของพนักงานในโรงงานผลิตสินค้า หรือพนักงานบริการในร้านค้า
การออกแบบชุดยูนิฟอร์มมักเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานร่วมกับการสื่อสารและการติดต่อระหว่างพนักงานและลูกค้า การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและการออกแบบที่สวยงาม เป็นต้น
การตัดต่อยูนิฟอร์มขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจหรือกิจการ การให้ความสำคัญกับความสะอาดและการบำรุงรักษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาคุณภาพของยูนิฟอร์มให้ดูดีและสวยงามตลอดเวลาในการใช้งานประจำวันของพนักงานทุกคนในองค์กรหรือธุรกิจนั้นๆ
ยูนิฟอร์ม (Uniform) เป็นชุดเครื่องแบบที่พนักงานสวมใส่เพื่อแสดงตัวตนและตำแหน่งของพวกเขาในองค์กรหรือธุรกิจ เขาแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และความเชื่อมโยงของพนักงานกับบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ
ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและบริษัท ยกตัวอย่างเช่น:
ในโรงแรม พนักงานบริการอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่ประกอบไปด้วยเสื้อโปโลและกางเกงขายาวหรือกระโปรง
ในธุรกิจทางการแพทย์ พวกเขาอาจสวมเสื้อคลุมเพื่อป้องกันและอุ่นใจให้กับผู้ป่วยและลูกค้า
ในธุรกิจแห่งการบิน พนักงานสายการบินอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่รวมถึงเครื่องแต่งกายสมบูรณ์ รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายพิเศษเพื่อเน้นความสวยงามและความเรียบร้อย
ชุดยูนิฟอร์มมักจะถูกออกแบบเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กร และมักจะมีการกำหนดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถระบุและรู้จักพนักงานได้ง่ายขึ้นด้วยการมองเห็นชุดยูนิฟอร์มที่สวมใส่และการปฏิสัมพันธ์กับพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ ในองค์กรนั้น ๆ อย่างมั่นใจได้ในการตอบสนองและบริการลูกค้าในทางที่เหมาะสมและมีคุณภาพ

ทางบริษัทจัดนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าอย่างละเอียด จนลูกค้าเข้าใจและสามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา และพึงพอใจ ตามที่ลูกค้าต้องการ
สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : uniform
โทร      : 02-583-7598
E-mail  : casuniform@yahoo.com
เว็บไซด์: https://uniformdeluxe.com/


9
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์ 
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/





10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



11
“การสร้างแบรนด์
ก็เหมือนกับ
การสร้างพื้นที่ทำธุรกิจของคุณเอง
ถ้าคุณไม่สร้างแบรนด์ เท่ากับว่าวันนี้คุณไม่มีพื้นที่ในการทำธุรกิจ“

ครูแมกซ์
“สอนสร้างแบรนด์
สอนทำธุรกิจออนไลน์”

“การสร้างแบรนด์”
ไม่ใช่แค่การทำให้สินค้าดูสวยงาม หรือการทำโลโก้กับสีสันที่ดึงดูดเท่านั้น แต่มันคือศิลปะในการสร้างเสน่ห์ที่ลูกค้าไม่อาจต้านทานได้ มันเหมือนการทำเวทมนตร์ ซึ่งไม่ต้องการไม้กายสิทธิ์ หรือหมวกวิเศษ แต่ต้องการความเข้าใจในลูกค้าและการสื่อสารที่ตรงจุด
สมมติว่าคุณกำลังขายกาแฟ ลองนึกภาพนี้สิ…
คุณไม่ได้แค่ขายกาแฟ แต่คุณกำลังขายช่วงเวลาแห่งความสุข
บทสนทนาที่ดี และความรู้สึกที่อบอุ่นใจ ทุกครั้งที่ลูกค้าหยิบถ้วยกาแฟของคุณ
พวกเขาไม่ได้แค่ดื่ม แต่พวกเขากำลังดื่มด่ำกับเรื่องราวที่คุณเล่า
.
แบรนด์ที่ดี คือแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้าจำได้ ไม่ว่าจะผ่านงานโฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่โดนใจ หรือแม้กระทั่งการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ ทั้งหมดนี้คือส่วนประกอบในการสร้างแบรนด์ที่สำคัญทั้งนั้น
แบรนด์ที่สามารถเล่าเรื่องราวที่ตรงใจและสร้างความแตกต่าง  จะเป็น แบรนด์ที่มีความมั่นคงและยั่งยืนในตลาด และนั่นคือเหตุผลที่การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นศิลปะแห่งการเชื่อมต่อกับใจคนอย่างแท้จริง

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://www.facebook.com/Krumax181026
เว็บไซด์ : https://businesssmarttools.com/
เบอร์โทร : 093-962-6545



12

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ






13
โรคเบาหวาน (Diabetes) คือโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอร่วมกับการมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน  ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้พบระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ


ชนิดของโรคเบาหวาน

เบาหวานชนิดที่ 1 – เกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายเซลล์สร้างอินซูลินในตับอ่อน ทำให้เกิดภาวะขาดอินซูลิน
เบาหวานชนิดที่ 2 – เกิดจากภาวะการลดลงของการสร้างอินซูลิน ร่วมกับภาวะดื้ออินซูลิน เป็นเบาหวานชนิดที่เจอได้มากที่สุด
เบาหวานจากสาเหตุจำเพาะ อื่นๆ เช่น โรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง โรคผิดปกติของต่อมไร้ท่อบางชนิด หรือการรับประทานยาที่มีสารสเตียรอยด์
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ – เบาหวานชนิดนี้เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์และหายไปได้หลังคลอดบุตร แต่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต


อาการเบื้องต้นของโรคเบาหวาน

1. ดื่มน้ำบ่อย กระหายน้ำมาก
2. ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะปริมาณมาก
3. หิวบ่อย กินจุกว่าเดิม
4. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
5. อ่อนเพลีย
6. สายตาพร่ามัว
7. ชาปลายมือปลายเท้า
8. แผลหายช้า

หากมีอาการดังกล่าวข้างต้นควรเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน เพื่อรับการรักษา ไปพร้อม ๆ กับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแต่เนิ่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของอาการแทรกซ้อนระยะยาว เช่น ไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ที่อาจตามมาได้

รู้จักโรคเบาหวาน และ 8 อาการควรระวัง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/278

14
ก้างปลา หรือเศษกระดูกเป็ดไก่อาจติดคอ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บในคอและกลืนลำบากทันทีขณะกินอาหาร

ถ้าเป็นก้างปลาขนาดเล็ก ๆ อาจหลุดได้เองในเวลาต่อมา หรือการกลืนก้อนข้าวสุกหรือขนมปังนิ่ม ๆ อาจช่วยให้หลุดได้


สาเหตุ

เกิดจากการขาดความระมัดระวังในการกินอาหารประเภทปลาหรือเป็ดไก่


อาการ

ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บในคอและกลืนลำบากทันทีขณะกินอาหาร


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าก้างปลาหรือเศษกระดูกมีขนาดใหญ่ อาจคาอยู่ในลำคอ ทำให้เกิดการอักเสบเป็นหนองได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากการบอกเล่าอาการของผู้ป่วย และตรวจพบมีก้างปลาหรือเศษกระดูกเป็ดไก่ติดคาที่บริเวณคอหอย หากไม่แน่ใจแพทย์อาจจำเป็นต้องใช้เครื่องมือส่องตรวจที่คอหอย


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ใช้ไฟฉายส่องดูภายในลำคอ ถ้ามองเห็นก้างหรือเศษกระดูกชัดเจน ให้ใช้คีมหรือปากคีบหยิบออก ส่วนมากมักจะติดอยู่ที่ข้าง ๆ ทอนซิล

2. ถ้ามองไม่เห็นและสงสัยเป็นก้างปลาหรือเศษกระดูกชิ้นใหญ่ อาจต้องใช้เครื่องมือส่องเข้าไปในลำคอคีบเอาออก


การดูแลตนเอง

ถ้ารู้สึกมีก้างปลาหรือเศษกระดูกติดคอ (มีอาการเจ็บคอทันที ระหว่างกินอาหาร) ให้กลืนก้อนข้าวสุกหรือขนมปังนิ่ม ๆ สัก 2-3 คำ

ถ้าหายเจ็บแสดงว่าได้ผล แต่ถ้าไม่หายเจ็บควรไปพบแพทย์

การป้องกัน

ควรระมัดระวังในการกินอาหารที่มีก้างปลาหรือกระดูกเป็ดไก่

ควรเคี้ยวอาหารในปากให้แน่ใจว่าไม่มีเศษก้างหรือกระดูกก่อนกลืน




ตรวจอาการด้วยตนเอง: ก้างปลา/กระดูกติดคอ  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/symptom-checker

15
อาการของโรคภูมิแพ้ ไข้หวัด และโควิด-19 คล้ายกันจนในบางครั้งเราก็สงสัยว่า #นี่เราติดหรือยังนะ ลักษณะอาการของกลุ่มโรคเหล่านี้ เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการรุนแรง การทำความรู้จักกับอาการของโรคจะช่วยให้เราลดความวิตกกังวล และเฝ้าระวังป้องกันตนเองโดยที่ไม่ตื่นตระหนกมากจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้หลายคนสงสัยว่า ตัวเองกำลังเป็นภูมิแพ้อากาศ หรือ ติดเชื้อโควิด-19 กันแน่!


อาการของโควิด

มีตั้งแต่ ไม่มีอาการ หรือ มีอาการเหมือนไข้หวัด เช่น มีไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ท้องเสีย คัดจมูก จมูกได้กลิ่นน้อยหรือไม่ได้กลิ่น น้ำมูกไหลบางครั้ง อ่อนเพลีย หนาวสั่น ปวดศีรษะ

ไปจนถึงมีอาการมาก เช่น ไอมาก เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบ เนื่องจากมีปอดอักเสบโดย เฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุ หรือมีโรคประจำตัวร่วมด้วย ต่างจากผู้ป่วยเด็ก ที่ติดเชื้อโควิดซึ่งมีอาการน้อยมาก หรือไม่มีอาการเลย

เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว ระวังเป็นภูมิแพ้อากาศ


อาการของโรคแพ้อากาศ หรือ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้

คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา จาม อาจมีบางครั้งที่จมูกได้กลิ่นน้อยลง โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ หรือ โรคแพ้อากาศ เป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

สารก่อภูมิแพ้ในประเทศไทยที่พบบ่อยที่สุดเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการ คือ ไรฝุ่น ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ มักจะแพ้สารก่อภูมิแพ้หลายชนิด โรคนี้มีผลต่อคุณภาพชีวิตคนไทย ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแย่ลง



อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยระวังเป็นภูมิแพ้ นี่เราเป็น “ภูมิแพ้” หรือ “โควิด 19” อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/covid-19

หน้า: [1] 2 3 ... 35