ออล นิว ไทรทัน: เปิด 5 จุดเด่น 2024 Mitsubishi Triton ใหม่ ขอชิงบัลลังก์ท็อป 3 รถกระบะ การเปลี่ยนโฉมครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ทาง Mitsubishi จึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ตอกย้ำว่ารถกระบะรุ่นนี้มีความสำคัญสำหรับพวกเขาอย่างมาก และถือเป็นพลังขับเคลื่อนยอดขายในระดับโลกเลยทีเดียว โดยเมืองไทยเป็นตลาดแรกในโลกที่ได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริง
สำหรับราคาจำหน่ายช่วงเปิดตัวมีดังนี้
Mitsubishi Triton รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 699,000 บาท
Mitsubishi Triton รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 820,000 บาท
Mitsubishi Triton รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,016,000 บาท
เราไปชมกันว่า All-New Mitsubishi Triton ใหม่ มีอะไรน่าสนใจบ้าง และมีคุณสมบัติมากเพียงพอที่จะสามารถเขี่ย Ford Ranger ตกบังลังก์ท็อป 3 เซกเมนท์รถกระบะได้หรือไม่
1. เครื่องยนต์ใหม่
เครื่องยนต์คลีนดีเซลใน Mitsubishi Triton ที่ถูกนิยามว่าเป็น "ไฮเปอร์เพาเวอร์" (Hyper Power Engine) ใหม่ มีพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบเทอร์โบแปรผัน VG Turbo โดยนี่คือเวอร์ชั่นช่วงเปิดตัว ทาง Mitsubishi จะนำเสนอรุ่น 204 แรงม้าตามมาภายหลัง
สำหรับระบบส่งกำลังของรุ่นสูงสุดเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด Sport ส่วนรุ่นรองลงไปใช้ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย
2. เฟรมโครงสร้างใหม่
All-New Triton 2024 มาพร้อมแพลตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะโครงสร้างรถเมกาเฟรมแบบขั้นบันไดที่มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) และเสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนที่สูงขึ้น
ทาง Mitsubishi การันตีว่าช่วยเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ทั้งบนถนนออนโรดที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และสมบุกสมบันกว่าเดิมบนถนนออฟโรด อีกทั้งยังช่วยในเรื่องความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
3. เพิ่มความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถกระบะทำให้ Mitsubishi ต้องใส่ระบบต่าง ๆ เข้ามาเพิ่มเติม เริ่มจากกล้องมองภาพรอบคันที่มีความคมชัดความละเอียดสูง ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนด้านหลัง ขณะถอยออกจากช่องจอด และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง Active Yaw Control หรือ AYC เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น
ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่หมดจดเช่นกัน เน้นสันเหลี่ยมและความเฉียบคม มีจอแสดงผลประกอบชุดมาตรวัดและจออินโฟเทนเมนท์แบบฟรีสแตนดิ้งขนาด 9 นิ้วบนคอนโซลหน้า เบาะนั่งผู้ขับขี่หุ้มหนังและมีระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังด้วยไฟฟ้า Lumber Support
4. รูปลักษณ์บึกบึนยิ่งขึ้น
การออกแบบอาจเป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ แต่ All-New Triton มีความโดดเด่นยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน โดยยังคงแนวคิด Dynamic Shield ที่ถูกวิวัฒนาการใหม่ ลดความหวือหวาของรุ่นเดิมและเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น ไฟเดย์ไลท์อยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นไฟส่องสว่างซึ่งทั้งคู่ใช้ชุดไฟ 3 ดวงเหมือนกัน
ด้านข้างตัวถังมีความเรียบง่ายซึ่งทำให้ตัวรถบึกบึนและสง่างาม น่าจะถูกใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่สายแคมปิ้งหรือผู้ประกอบการ รวมถึงสาวแกร่งที่ชอบรถปิกอัพด้วย ส่วนไฟท้ายดีไซน์รูปทรงตัว T ที่ทำให้ส่วนด้านหลังรถดูกว้างขวางและเปี่ยมด้วยมัดกล้าม
5. ช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน
All-New Triton มาพร้อมชุดช่วงล่างด้านหน้าแบบปีกนกคู่และด้านหลังแหนบแผ่นซ้อน ทีเด็ดอยู่ที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อถ่ายทอดจากสนามแข่งแรลลี่โลก Super Select 4WD-II ที่สามารถกระจายแรงบิดได้อย่างสมดุล รวมถึงระบบ Easy Select 4WD ที่ให้ผู้ขับยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ และปรับระบบขับเคลื่อนเป็น 4 ล้อหรือ 2 ล้อแบบ 2H 4H หรือ 4L ได้ดังใจคิด