ผู้เขียน หัวข้อ: motor show: All New Innova Zenix ไฮบริด นุ่มเงียบ ประหยัด 16 กม./ลิตร อัตราเร่งก  (อ่าน 84 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 906
  • ขายฟรีสินค้าในไทย,ลงประกาศฟรี,ทุกหมวดหมู่,เวบบอร์ดรองรับ SEO
    • ดูรายละเอียด
All New Toyota Innova Zenix 2.0 ลิตรไฮบริด จาก Lexus UX250h กำลังรวมสูงสุด 186 แรงม้า E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า จุดเด่นคือ ใช้พื้นฐาน TNGA ช่วงล่างแบบรถเก๋งด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชั่นบีม ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ภายในมาตรวัดและจอความบันเทิงใหม่ เบาะแถวสองแยกแบบ Captain Seat ฝาท้ายไฟฟ้าระบบ Hand Free และ เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold


 
สมรรถนะการนั่งและทดลองขับ

ในทริปนี้มีรถ All new Innova Zenix ทั้งหมด 10 กว่าคัน พร้อมสื่อนั่งในรถ 2 - 4 คนต่อ 1 คัน ครบทั้ง 2 รุ่นย่อย ซึ่งคันที่ได้ทดสอบเป็นรุ่น Premium นั่ง 4 คน สลับกันขับขี่ เส้นทาง TDEX Toyota ALIVE บางนา กม.3 ถึง โรงแรมเมอเคียว ระยอง ระยทางรวมไปกลับ 440 กม.เริ่มต้นจากการนั่งเบาะแถวสองและแถวสามก่อนเลยครับ

เจาะขุมพลังอีกนิดเป็นเบนซิน 4 สูบ Dynamic force VVT-i รหัส M20A-FXS 1,987 ซีซี กำลังสูงุสด 152 แรงม้า แรงบิด 188 นิวตันเมตร แปรผันองศาที่สามารถปรับลดกำลังอักจาก 14 : 1 เป็น 3 : 1 เพื่อให้เครื่องยนต์เร่งความเร็วรอบให้สัมพันธ์กับรอบของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด ขนาด 83 กิโลวัตต์ หรือ 111 แรงม้า แรงบิด 206 นิวตันเมตร ช่วยให้ทำงานราบรื่นและตอบสนองเร็วขึ้นไม่สะดุด

ระบบ Toyota Safty Sense 3 ทำงานละเอียดมุมมองกว้างขึ้นและตรวจจับได้แม่นยำขึ้น ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแล้วครับ ! เบาสบายแน่นอน รวมถึงการดามโครงสร้างตัวถังตามจุดหัวโช้คเสริมความแข็งแรง และระบบแบตเตอรี่ที่ทนทาน พร้อมการจัดวางเครื่องยนต์ให้อยู่ระดับต่ำลง จุดศูนย์ต่ำยิ่งเกาะถนนและควบคุมดีไม่แตกต่างจากรถเก๋งเลยครับ
 
 
ข้อแตกต่างมาก ๆ จากรุ่นก่อนหน้าสู่รุ่นใหม่เรียกว่า หนังคนละม้วนเลยครับ ตั้งแต่ดีไซน์โครงสร้างรถ ช่วงล่าง รวมถึงสมรรถนะต่าง ๆ ที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่างมากมายเลยครับ โดยเฉพาะอัตราเร่งออกตัว เร่งแซงและอัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้นจนน่าตกใจ!

 
เจ้าเครื่องยนต์ตัวนี้มาพร้อมระบบ 2 หัวฉีดคือ หัวฉีดในท่อร่วมไอดีและหัวฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ ซึ่งจะมีการสั่งจ่ายน้ำมันตามโหลดที่ต้องการ เช่น ใช้งานทั่วไปฉีดที่ละหัวหรือฉีดผสมสัดส่วนแตกต่างกัน และฉีดพร้อมกัน ขึ้นการการใช้งานและการผสานกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้ไหลลื่นและตอบสนองคันเร่งได้ไวมาก ๆ ครับ ไม่อย่างนั้นอยู่กล้าติดตั้งลงใน Lexus UX250h ได้อย่างไร จริงไหมครับ?

 
ผู้โดยสารตอนหลังสบายคล้าย Alphard
 
สำหรับเบาะแถวที่สองนับว่าสบายที่สุดในรถ ด้วยการใช้เบาะแยกแบบ Captian Seatพร้อมที่รองน่องปรับไฟฟ้า พนักพิงปรับไฟฟ้า สะดวกสบายพอสมควร พื้นที่วางเท้า เหลือเฟือและหลังคาโปร่งโล่งสะดวก ประตูเปิดเข้าออกกว้างขวาง ตัวผิวสำผัสเบาะนุ่มใช้ได้ แต่วัสดุหรือการเก็บงานไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ ตำแน่งเท้าแขนแผนประตูสูงกำลังดี ส่วนอีกฝั่งก็ยกปรับระดับและพับเก็บได้ ตรงกลางมีช่องแคบ ๆ พอที่จะเดินผ่านเพื่อไปนั่งแถวที่สามได้ แต่อาจจะเล็กไปหน่อยครับ

ในเบาะแถวที่สองมีสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มที่ทั้ง ที่ว่างแก้วน้ำ วางแขน โต๊ะพับเก็บได้ แต่วัสดุดูไม่ค่อบแข็งแรงเท่าไหร่ ส่วนที่รองน่องเมื่อยกขึ้นมาต้องระวังปลายเท้าไปขัดกับเบาะหน้า ต้องคอยขยับหลบ แต่เบาะพิงสามารถปรับเอนได้เยอะมากจนเกือบจะนอนแบนราบทำให้นอนพักผ่อนได้สบาย ๆ เลยครับ
 
เย็นสบายด้วยช่องแอร์บนเพดาน และสวิตช์ควบคุมด้านหลังคอนโซลกลาง ปรับแรงลมหรือใช้โหมดอัตโนมัติได้ แต่ว่าการปรับตั้งอุณหภูมินั้นขึ้นกับแอร์ชุดหน้าเท่านั้นหรือว่าปรับได้แต่แรงลมปรับระดับความเย็นไม่ได้แยกตอนหน้า-หลังเอาไว้ให้ครับ แต่เสียดายที่การเลื่อนเบาะไปหน้า-หลังใช้แบบปรับมือ และสวิตช์เบาะไฟฟ้าพนักพิงหลังเล็กและซ่อนอยู่ขอบ ๆ เบาะทำให้ใช้งานไม่ถนัดนัก
 
เบาะแถวที่สามนั่งสบายน้อยที่สุด แต่ถือว่านั่งได้จริงแม้ผู้ทดสอบสูง 176 ซม. ตัวใหญ่ยัง "ยัด" ตัวเข้าไปโดยการ เดินผ่านช่องว่างระหว่างเบาะตอนสองได้ เมื่อมีคนนั่งอถวที่สอง พื้นที่วางขาและหัวเข่าชิดกับเบาะพิงตอนกลางพอดี แต่ตัวเบาะยั่งได้แบบหลวม ๆ รวมถึงเพดานโปร่งกว่าที่คิด และวิสัยทัศนะไม่ค่อยอึดอัดมากนัก ยิ่งเปิดหลังคาพาโนรามิครูปยิ่งโปร่งโล่งสบายตามากขึ้นไปอีกครับ ใครที่ชอบเดินทางแบบครอบครัวนั่งครบทุกแถวบ่อย แนะนำว่า หากงบประมาณเพียงพอมารุ่น Premium เลยครับ

ส่วนเรื่องความนุ่มนวล ความโยนตัว ถือว่าน้อยมาก ๆ เพราะว่า ระบบช่วงล่างเป็นแบบรถเก๋งตัวถัง Monocoque ไม่ใช่ BODY ON FRAME แบบรุ่นก่อนหน้านี้ ยิ่งให้ความนุ่มนวลไม่แตกต่างจากรถ SUV หรือรถยกสูงระดับพรี่เมียมทั่วไปเลยครับ โดยเฉพาะแถวที่สองนั้นถืแว่านุ่มนวลที่สุด แต่แถวที่สามก็ถือว่าไม่โยนไม่กระเด้งหรือโยกมากนัก ทำให้นั่งได้จริงไม่กระเทือนและเดินทางไกลได้สบาย ๆ เลยครับ
 
เรื่องของเบาะแถวที่สองนั้นส่วนตัวคิดว่า รุ่น SMART ที่เป็นระบบปรับมือทั้งหมดกลับใช้งานคล่องและรวดเร็วกว่า ด้วยการโยกสวิตช์ที่ด้านหลังพนักพิงเบาะก็จะเลื่อนและโยกตัวหลบไปด้านหน้าให้มีพื้นที่มากพอในการเข้า-ออกได้อีกทาง โดยเฉพาะเมื่อผู้นั่งแถวที่สามต้องการจะลงด้านข้างไม่สะดวกเดินผ่านตรงกลาง แต่พอเป็นระบบไฟฟ้านั้นจะทำได้เพียงเลื่อนไปข้างหน้า จะต้องกดสวิตช์ปรับเบาะให้เอนไปข้างหน้าอีกครั้งจึงจะเข้า-ออกได้ครับ   
 
โดยรวมแล้วภายในนั้นการออกแบบจัดวางตำแหน่งใช้งานต่าง ๆ รวมถึงออปชั่นใช้งานเหมาะะสมดีครับ ยิ้งที่วางแก้วน้ำหรือขวดน้ำเยอะมาก ๆ แต่ติดตรงที่วัสดุหุ้มเบาะ ที่วางแขนตอนหน้าระดับต่ำไป และฝาเปิดกล่งเก็บของใต้ที่วางแขนแบบด้านข้างที่แปลก ๆ ตาไม่คุ้นเคยนัก โต๊ะพับตรงกลางเบาะแถวที่สามดูบอบบางไป กล้องแสดงภาพรอบคันไม่ชัดและกดเปลี่ยนมุมมองบนจอไม่ได้ ต้องกดที่สวิตช์ด้านข้างใกล้เข่าขวาคนขับ และเซ็นเซอร์ประตูท้ายแบบใช้เท้ากวาดที่ยัง "หาตำแหน่งยาก" ต้องทำหลายครั้งกว่าจะติดและต้องตรงตำแหน่งแบบพอดี ๆ อีกด้วย

 
ความสะสวกสบายและความปลอดภัย
 
All-new Toyota Innova Zenix มาพร้อมระบบ TOYOTA SAFETY SENSE เวอร์ชั่น 3 ทำงานสมูทเนียนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการดึงกลับกลับขณรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ หรือว่าเปิดระบบควบคุมความเร็วแปรผันแบบ All-speed เมื่อมีรถแทรกเข้ามาระหว่างรถคันหน้า ระบบก็จะค่อย ๆ ลดความเร็วอย่างช้า ๆ ทำให้ทั้งคนนั่งและคนขับไม่รู้สึกกระชาก และไม่มึนอีกด้วย นับว่าทำงานได้ละเอียดมากขึ้นครับ

 
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเตือนรถออกนอกเลน ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้างหรือระบบเตือนขณะถอยหลัง ซึ่งเป็นออปชั่นที่มีครบทุกรุ่นย่อย แต่ในาส่วนของกล้องมองรอบคัน 30 องศานั้น แอบติดใจที่ให้ความคมชัดต่ำไปหน่อย แต่ก็ถือว่ามองได้ใช้งานได้อยู่ ส่วนในรุ่น Smart มีเพียงกล้องมองหลังที่ความคมชัดพอ ๆ กันครับ 


อัตราเร่ง+ช่วงล่าง แรงประหยัดนุ่มนวลเกิดตาด!
 
เห็นครั้งแรกคันใหญ่ดูเทอะทะและต้องหนักจนอืดหรืออาจจะเร่งแบบธรรมดา รวมถึงต้องกิจน้ำมันดุแน่ ๆ และเครื่องยนต์แค่ 2.0 ลิตร ไฮบริด กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 186 แรงม้า และเกียร์ e-CVT ขับเคลื่อนล้อ โดยตัวเลขประหยัดตามโฆษณานั้นอยู่ที่ประมาณ 21 กม./ลิตร แต่เมื่อได้ขับจริงขอบอกเลยว่า "เกินคาด" ทั้งอัตราเร่งที่มาไวไม่อืดอย่างที่คิดขับได้ถึง 15 - 16 กม./ลิตร แต่มีร่วมในทริปนี้สามารถปั้นไปได้ถึง 21 กม./ลิตรจริง ๆ
 
การออกตัวนับว่าทำได้ไม่แตกต่างจากรถอัลติสหรือครอสมากนัก หรือว่าใกล้เคียงกันก็ได้ครับ ในการเร่งแซงจาก 70 กม./ชม. ถึง 120 กม./ชม.นั้น ถือว่ามาไวและทันใจมาก ไม่อืดและให้ความนุ่มนวลเรียบง่ายราบรื่นทั้งคนขับและผู้โดยสารอีกด้วย จะมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่เร่งเมื่อคิกดาวน์และเสียงยางบดถนนเล็ดรอดเข้ามาในห้องโดยสารเท่านั้น
 
ส่วนระบบช่วงล่างนุ่มนวลด้วยโครงสร้างตัวถังแบบรถยนต์นั่งบวกกับ TNGA ที่ทำให้มีความแข็งแรงและการให้ตัวได้ดี ช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สันสตรัทแบบรถยนต์เก๋ง ด้านหลังกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีมที่มีความนุ่มนวลและเกาะถนนกว่าในรุ่นก่อนหน้าที่ใช่พื้นฐานจากรถปิกอับ การควบคุมพวงมาลัยที่ใช้ระบบ EPS ไฟฟ้าน้ำหนักเบาคล้ายขับรถเก๋ง และให้ความแม่นยำกระชับ
 
ด้วยช่วงล่างนุ่มนวลนั่งสบาย ไม่กระเด้งหรือกระแทกเวลาตกหลุมหรือกระโดดคอสะพาน เน้นไปทาง "นุ่มนวล" ตรงโจทย์ในการเดินทางแบบครบครัว ส่วนการเข้าโค้งหรือการขับขี่แบบเปลี่ยนเลนหรือหักหลบสิ่งกีดขวาง ก็อาจมีอาการนุ่มจนโคลงเคลงบ้างตามรูปแบบตัวถังรถ แต่โดยรวมถือว่า ไม่โยนหรือย้วยและให้ความรู้สึกเหมือนขับรถยนต์ซีดานครับ

 
โหมดการขับขี่ที่เลือกได้ 4 แบบทั้ง EV, Eco, Narmal และ Sport ต้องบอกว่าในการขับขจริงไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่นัก ยกเว้น Eco ที่จะเร่งแล้วหน่วง ๆ ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งหากใช้งานจริงแนะนำว่าใช้โหมด "Narmal" ไปเลยไม่ต้องคิดมากครับ โดยโหมด EV นั้นหากไฟในแบตเตอรี่มากเกินครึ่งจะสามารถวิ่งได้ความเร็วมากถึง 60 กม./ชม. แบบค่อย ๆ เร่งขึ้นไป แต่ถ้าเติมคันเร่งมาก ๆ เครื่องยนต์ก็จะติด หรือว่าไฟแบตฯ ลดลงเหลือน้อยกก็เครื่องยนต์ก็ติดเช่นกันครับ
 
 
สรุปความคุ้มค่า
 
All-new Toyota Innova Zenix รุ่น Premium เหมาะกับครอบครัวที่ชอบรถยนต์คันใหญ่ ประหยัดน้ำมัน สมรรถนะดีไม่แตกต่างจากรถซีดานคันใหญ่ ขับขี่หรือจะนั่งก็สะดวกสบายสบายแบบรถเก๋ง ออปชั่นใช้งานและวามปลอดภัยที่เต็มคัน ได้ระบบเครื่องยนต์ไฮบริดเหมือน Lexus กับ Camry รุ่น Premium ราคา 1,479,000 บาท ส่วนใครที่ไม่ต้องการจ่ายเงินเพิ่ม 1 แสนบาทและพอใจในออปชั่นพื้นฐานครบ ๆ ขุมพลังกับระบบช่วงล่างทุกอย่างเหมือนกัน ไม่เน้นหลังคาพาโนรามิก กล้องรอบคัน กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ หรือว่าเบาะแถวสามปรับไฟฟ้า (บางส่วน) และชอบภายในสีดำเข้ม ๆ ก็เลือกรุ่น Smart ราคา 1,379,000 บาท ไปใช้งานได้เลยครับ


motor show: All New Innova Zenix ไฮบริด นุ่มเงียบ ประหยัด 16 กม./ลิตร อัตราเร่งกำลังดี อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorshow/