สินค้าในไทย ลงประกาศฟรี ทุกหมวดหมู่ รองรับ SEO
หมวดหมู่ทั่วไป => เว็บบอร์ดโพสต์ฟรี ใหม่ๆ โฆษณาซื้อ-ขาย ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 18 กรกฎาคม 2025, 20:36:05 น.
-
ประเภทผ้ากันไฟที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม (https://www.newtechinsulation.com/)
ในโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกใช้ผ้ากันไฟเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่หลากหลายและมีความร้อนสูง ผ้ากันไฟแต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของแต่ละงาน
นี่คือประเภทผ้ากันไฟที่นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม:
1. ผ้าใยแก้ว (Fiberglass Fabric / Glass Cloth)
เป็นผ้ากันไฟที่ได้รับความนิยมและใช้งานแพร่หลายที่สุดในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีและราคาที่เหมาะสม
คุณสมบัติ:
ไม่ติดไฟโดยธรรมชาติ: ทำจากเส้นใยแก้วที่ไม่เป็นเชื้อเพลิง
ทนความร้อน: โดยทั่วไปสามารถทนอุณหภูมิใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 550°C - 750°C
น้ำหนักเบาและยืดหยุ่น: ง่ายต่อการจัดการและตัดเย็บ
ความแข็งแรง: มีความเหนียว ทนต่อแรงฉีกขาด
การใช้งานที่เหมาะสม:
ผ้าม่านกันประกายไฟ (Welding Curtains): ใช้กั้นพื้นที่ทำงานเชื่อม ตัด เจียร เพื่อป้องกันประกายไฟและสะเก็ดไฟกระเด็นไปโดนอุปกรณ์หรือพนักงาน
ผ้าห่มกันสะเก็ดไฟ (Welding Blankets): ใช้คลุมเครื่องจักร, สายไฟ, ท่อ, หรือวัตถุไวไฟ
ฉนวนหุ้มท่อ/อุปกรณ์: ใช้เป็นวัสดุหลักในการทำผ้าหุ้มฉนวนแบบถอดได้ (Removable Insulation Jackets) สำหรับท่อไอน้ำ ท่อลมร้อน หรืออุปกรณ์ที่มีความร้อนปานกลาง
2. ผ้าใยแก้วเคลือบผิว (Coated Fiberglass Fabric)
เป็นการนำผ้าใยแก้วพื้นฐานมาเคลือบด้วยสารต่างๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติและประสิทธิภาพให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ผ้าใยแก้วเคลือบซิลิโคน (Silicone Coated Fiberglass Fabric):
คุณสมบัติ:
ยังคงคุณสมบัติไม่ติดไฟและทนความร้อนของใยแก้ว (ผ้าใยแก้วหลักทนได้ 550°C สารเคลือบซิลิโคนทนได้ประมาณ 250°C - 280°C)
ป้องกันการฟุ้งกระจายของเส้นใย: ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ (คุณสมบัติ "ไม่คัน")
ทนทานต่อการขูดขีดและการฉีกขาด: เพิ่มความทนทานทางกายภาพ
กันน้ำและน้ำมัน: ทำความสะอาดง่าย
ทนทานต่อสารเคมีบางชนิด
การใช้งาน:
ผ้าม่านกันประกายไฟในพื้นที่ที่มีพนักงานทำงานใกล้ชิดหรือมีการสัมผัสบ่อย
ผ้าหุ้มฉนวนสำหรับท่อ/อุปกรณ์ที่ต้องการความทนทานสูงและทำความสะอาดง่าย
ผ้าใยแก้วเคลือบเวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite Coated Fiberglass Fabric):
คุณสมบัติ:
เพิ่มความสามารถในการ ทนความร้อนได้สูงขึ้น (มักจะถึง 800°C - 1000°C)
ทนทานต่อการทะลุผ่านของเปลวไฟ/สะเก็ดไฟ: มีประสิทธิภาพสูงในการเป็นเกราะป้องกัน
มีความแข็งแรงและทนทานต่อการเสียดสี
การใช้งาน:
สำหรับงานเชื่อมหนัก งานที่มีความร้อนสูงมากเป็นพิเศษ
ใช้เป็นม่านกันไฟที่ต้องการประสิทธิภาพการป้องกันสูงสุด
3. ผ้าซิลิก้า (Silica Fabric)
เป็นผ้ากันไฟสำหรับงานที่ต้องการการทนความร้อนสูงกว่าผ้าใยแก้วทั่วไป
คุณสมบัติ:
ทนความร้อนสูงมาก: สามารถทนอุณหภูมิใช้งานต่อเนื่องได้ถึงประมาณ 980°C - 1000°C และอาจทนได้สูงสุดถึง 1200°C เป็นช่วงสั้นๆ (จุดหลอมละลายสูงถึง 1800°C)
ปริมาณซิลิกาบริสุทธิ์สูง: มักมี SiO2 มากกว่า 96%
ความยืดหยุ่นดี: สามารถนำไปตัดเย็บหรือหุ้มส่วนที่ซับซ้อนได้ง่าย
ทนทานต่อสารเคมี: ทนทานต่อการกัดกร่อนของกรดและสารเคมีบางชนิด
ไม่คัน: โดยทั่วไปจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเหมือนใยแก้วที่ไม่มีการเคลือบ
การใช้งาน:
ผ้าม่าน/ผ้าห่มกันประกายไฟสำหรับ งานเชื่อมหนักพิเศษ ที่มีสะเก็ดไฟร้อนและรุนแรงมาก
หุ้มฉนวนสำหรับท่อส่งความร้อนสูง, ฮีทเตอร์, หรือส่วนประกอบเทอร์ไบน์
งานในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี, โรงไฟฟ้า, อุตสาหกรรมเหล็ก
4. ผ้าใยเซรามิก (Ceramic Fiber Fabric / Cloth)
เป็นผ้ากันไฟขั้นสูงสุดสำหรับงานที่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่รุนแรงที่สุด
คุณสมบัติ:
ทนความร้อนสูงจัด: สามารถทนอุณหภูมิใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 1000°C - 1260°C และบางเกรดพิเศษอาจสูงถึง 1430°C หรือ 1600°C
เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยม: มีค่าการนำความร้อนต่ำมาก
น้ำหนักเบามาก: เมื่อเทียบกับความสามารถในการทนความร้อน
ทนทานต่อ Thermal Shock: สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วได้ดี
ทนทานต่อสารเคมีและไม่ติดไฟ
การใช้งาน:
ฉนวนหุ้มเตาหลอม, เตาเผาอุตสาหกรรม, เตาอบอุตสาหกรรมที่มีอุณหภูมิสูงจัด
ปะเก็นหรือซีลสำหรับประตูเตาเผา
หุ้มท่อส่งก๊าซร้อนจัด หรือท่อไอเสียที่มีอุณหภูมิสูงมากในอุตสาหกรรมหนัก
การเลือกประเภทผ้ากันไฟที่เหมาะสมในโรงงานอุตสาหกรรม ควรพิจารณาจาก ช่วงอุณหภูมิใช้งานจริง เป็นอันดับแรก ตามมาด้วย ลักษณะการใช้งาน (กันสะเก็ดไฟ, หุ้มฉนวน, กั้นม่าน), สภาพแวดล้อม (มีสารเคมี, ความชื้น, การเสียดสีหรือไม่) และ งบประมาณ เพื่อให้ได้ผ้ากันไฟที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่ากับการลงทุนครับ