สินค้าในไทย ลงประกาศฟรี ทุกหมวดหมู่ รองรับ SEO

หมวดหมู่ทั่วไป => เว็บบอร์ดโพสต์ฟรี ใหม่ๆ โฆษณาซื้อ-ขาย ฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 19 มิถุนายน 2025, 13:10:18 น.

หัวข้อ: บริหารจัดการอาคาร: การบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำอุ่นให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 19 มิถุนายน 2025, 13:10:18 น.
บริหารจัดการอาคาร: การบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำอุ่นให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น (https://snss.co.th/dt_post/technical-services/)

การดูแลบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำอุ่นอย่างถูกวิธี ไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง แต่ยังช่วยประหยัดพลังงาน รักษาประสิทธิภาพการทำงาน และที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานด้วยครับ

1. การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

ทำความสะอาดภายนอกเครื่อง: ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องด้านนอกเป็นประจำ เพื่อไม่ให้มีฝุ่นเกาะ ซึ่งอาจส่งผลต่อการระบายความร้อนของเครื่อง
ทำความสะอาดฝักบัวและหัวกรอง:
ทำความสะอาดคราบตะกรันที่หัวฝักบัว: ถอดหัวฝักบัวออกมาทำความสะอาดรูน้ำอุดตันจากคราบตะกรันหรือสิ่งสกปรก ซึ่งจะทำให้แรงดันน้ำลดลง หรือน้ำไหลไม่สม่ำเสมอ สามารถใช้น้ำส้มสายชูแช่ทิ้งไว้สักพักแล้วใช้แปรงขัดออกได้
ทำความสะอาดตะแกรงกรองน้ำ (Strainer): เครื่องทำน้ำอุ่นส่วนใหญ่จะมีตะแกรงกรองน้ำอยู่บริเวณทางน้ำเข้า ควรหมั่นถอดออกมาล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อาจปะปนมากับน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุให้แรงดันน้ำลดลงและส่งผลให้เครื่องทำงานหนักขึ้น


2. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและสายดิน

ตรวจสอบสายไฟและปลั๊ก: หมั่นตรวจเช็คสภาพสายไฟและปลั๊กเสียบว่าไม่มีรอยแตกร้าว ฉีกขาด หรือฉนวนหุ้มชำรุด หากพบควรรีบเปลี่ยนหรือซ่อมแซมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
ตรวจสอบระบบสายดิน (Grounding System):
สำคัญที่สุดด้านความปลอดภัย: ตรวจสอบว่าสายดินยังคงเชื่อมต่อกับเครื่องและหลักดินอย่างถูกต้อง และไม่มีร่องรอยการชำรุดเสียหาย
ทดสอบปุ่ม ELB/ELCB/RCD: เครื่องทำน้ำอุ่นที่ดีจะต้องมีปุ่มทดสอบระบบตัดไฟรั่ว (Earth Leakage Breaker/Earth Leakage Circuit Breaker/Residual Current Device) ควรทดสอบการทำงานอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยกดปุ่ม "TEST" หรือ "RESET" หากระบบทำงานปกติ เครื่องควรจะตัดไฟ หากกดแล้วเครื่องไม่ตัดไฟ แสดงว่าระบบมีปัญหา ควรรีบให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบแก้ไขทันที อย่าใช้งานเครื่องในสภาพนั้น


3. ตรวจสอบและดูแลชิ้นส่วนภายใน (โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ)

ล้างตะกรันในหม้อต้ม (สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นแบบถัง): หากใช้น้ำบาดาล หรือน้ำที่มีความกระด้างสูง อาจเกิดตะกรันสะสมในหม้อต้ม ซึ่งทำให้การถ่ายเทความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ เครื่องทำงานหนักขึ้น และสิ้นเปลืองพลังงาน ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาล้างตะกรันออกเป็นประจำ (อาจจะทุก 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำ)
ตรวจสอบขั้วต่อสายไฟภายใน: ให้ช่างตรวจสอบความแน่นหนาของขั้วต่อสายไฟภายในเครื่อง ว่าไม่มีการหลวมหรือเกิดสนิม ซึ่งอาจนำไปสู่การลัดวงจร
ตรวจสอบสภาพของฮีทเตอร์ (Heating Element): ช่างสามารถตรวจสอบสภาพของขีทเตอร์ว่ายังทำงานได้ดีหรือไม่ มีคราบตะกรันเกาะมากเกินไปหรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำความร้อน


4. การใช้งานอย่างถูกวิธี

ใช้แรงดันน้ำที่เหมาะสม: ไม่ควรใช้น้ำที่มีแรงดันต่ำเกินไป เพราะเครื่องอาจไม่ทำงาน หรือทำงานผิดปกติ (เครื่องทำน้ำอุ่นส่วนใหญ่มี Minimum Water Pressure Requirement) และไม่ควรใช้แรงดันน้ำที่สูงเกินไปจนเกินสเปกเครื่อง
ปรับอุณหภูมิที่เหมาะสม: ไม่ควรตั้งอุณหภูมิที่สูงเกินความจำเป็น เพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนักและสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น
ไม่ควรเปิด-ปิดบ่อยๆ: การเปิด-ปิดเครื่องทำน้ำอุ่นบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น อาจส่งผลให้ระบบทำงานหนักและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม: ติดตั้งในห้องน้ำที่มีการระบายอากาศที่ดี ไม่อับชื้นมากเกินไป และอยู่ห่างจากแหล่งน้ำกระเด็นโดยตรง


5. สังเกตความผิดปกติ

หากพบอาการผิดปกติใดๆ เช่น:

มีเสียงดังผิดปกติขณะเครื่องทำงาน
น้ำไม่ร้อน หรือร้อนผิดปกติ
มีกลิ่นไหม้
มีน้ำรั่วซึมจากตัวเครื่องหรือท่อต่อ
ระบบตัดไฟรั่ว (ELB) ตัดบ่อยเกินไปโดยไม่มีเหตุผล
ควรรีบ หยุดใช้งานทันที และติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบแก้ไข ห้ามซ่อมแซมด้วยตนเองเด็ดขาด

การดูแลเอาใจใส่เครื่องทำน้ำอุ่นตามคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้เครื่องของคุณทำงานได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นอย่างแน่นอนครับ