หมวดหมู่ทั่วไป > โพส SEO ลงโฆษณาฟรี
สัญญาณเตือนโรคไต อาการแบบไหนที่ต้องสังเกต
(1/1)
siritidaphon:
สัญญาณเตือนโรคไต อาการแบบไหนที่ต้องสังเกต
โรคไต ถือเป็นหนึ่งในโรคอันตรายที่ใครๆ ก็กลัว เพราะนอกจากจะทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง และต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดไปตลอดจนกว่าจะได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนไต ดังนั้น หากเลือกได้ การดูแลป้องกันตัวเองและคนใกล้ชิดให้ห่างไกลจากโรคไตจึงเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรทำ ซึ่งหนทางหนึ่งที่จะทำให้เรารู้เท่าทันและเข้ารับการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็คือ การหมั่นสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณเตือนโรคไต ให้เป็น นั่นเอง
อาการแบบไหนที่เป็นสัญญาณเตือนโรคไตถามหา?
โดยปกติแล้ว ในการสังเกตอาการเตือนโรคไตนั้น จะพิจารณาได้ง่ายๆ 2 ทาง คือ สังเกตจากลักษณะของปัสสาวะที่ผิดปกติ กับสังเกตจากอาการทางร่างกายที่ผิดปกติ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ลักษณะของปัสสาวะที่เป็นสัญญาณเตือนโรคไต ได้แก่
ปัสสาวะมีเลือดปน อาการนี้เป็นสัญญาณเตือนได้หลายโรค เช่น มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ เนื้องอก ภาวะไตอักเสบที่เกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของภูมิต้านทาน อย่างโรคแพ้ภูมิตัวเองซึ่งทำให้เนื้อไตอักเสบและปัสสาวะมีเลือดปนได้ หรือถ้าไม่ได้เป็นผลมาจากโรค ก็อาจเป็นเพราะประสบอุบัติเหตุรุนแรง เช่น มีการชนหรือการกระแทกรุนแรงที่บริเวณหลัง ก็จะทำให้ไตช้ำและมีเลือดออกได้เช่นกัน
ปัสสาวะเป็นฟอง คือภาวะที่มีโปรตีนหรือไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ โดยวิธีการสังเกตคือ เมื่อปัสสาวะแล้วให้ทิ้งช่วงสักระยะ ถ้าเป็นฟองที่เป็นสัญญาณเตือนโรคไต ฟองจะไม่หายไป จะเป็นเหมือนฟองเบียร์ที่ติดคาแก้ว แต่ถ้าหลังปัสสาวะแล้วฟองหายไป ถือว่าเป็นภาวะปกติ
ปัสสาวะน้อย ซึ่งจำเป็นต้องเทียบจากพฤติกรรมการปัสสาวะแต่เดิมของเราเป็นหลัก โดยหากพบว่าแม้จะดื่มน้ำมากแล้วแต่ก็ยังปัสสาวะน้อยอยู่ ก็ชวนให้สงสัยว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะไตเสื่อม หรืออาจมีภาวะอุดกั้นในทางเดินปัสสาวะได้
ปัสสาวะบ่อยเกินไป โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน หากหลับไปแล้วแต่ต้องลุกตื่นขึ้นมาปัสสาวะกลางดึกคืนละหลายๆ ครั้ง หรือ 3-4 รอบขึ้นไปก็จะถือว่าผิดปกติ เพราะหากไตอยู่ในภาวะปกติโดยธรรมชาตินั้น เมื่อเราหลับไปแล้วจะไม่มีการตื่นเพื่อลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางดึก แต่จะตื่นในตอนเช้าและปัสสาวะในช่วงเช้าของวันเลยทีเดียว
อาการผิดปกติทางร่างกายที่อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคไต ได้แก่
ความดันโลหิตสูงมาก โดยในผู้สูงอายุที่เป็นความดันโลหิตสูงทั่วไป ส่วนใหญ่เมื่อทานยาแล้วจะควบคุมความดันได้ดี แต่หากเป็นภาวะความดันสูงจากโรคไตเสื่อม แม้จะทานยาแล้วความดันก็จะยังคงสูงอยู่ หรือในกรณีคนที่อายุน้อยๆ แต่วัดความดันแล้วพบว่าอยู่ในระดับสูง ก็ชวนสงสัยว่าอาจเป็นผลมาจากภาวะไตเสื่อม
อาการบวมน้ำ โดยอาการบวมที่มีผลมาจากโรคไตนั้น จะมีลักษณะคือบวมตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าหลังตื่นนอน จุดที่บวมได้มากที่สุดคือช่วงล่าง เพราะน้ำจะไหลจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำ หรือในบางกรณีที่พบว่าบวมได้ก็คือ บวมที่เปลือกตา เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีลักษณะยืดหยุ่นที่น้ำจะไปรวมตัวอยู่ได้ง่าย หรือในกรณีของผู้ชาย ก็อาจพบการบวมน้ำบริเวณถุงอัณฑะได้เช่นกัน ในภาพรวมคือ ผิวหนังส่วนไหนที่ยืดหยุ่นที่สุดก็จะมีโอกาสเกิดการบวมน้ำบริเวณนั้นได้ ทั้งนี้ การบวมน้ำที่เป็นผลมาจากภาวะโรคไตจะต้องเป็นการบวมในลักษณะสมมาตร คือบวมทั้ง 2 ข้าง เช่น บวมที่ขาก็ต้องบวมทั้ง 2 ข้าง แต่หากพบการบวมแค่ข้างใดข้างหนึ่ง อาจเป็นผลมาจากการอักเสบเฉพาะตำแหน่งหรือเส้นเลือดอุดตันมากกว่า
ปวดหลัง ปวดเอว จะเป็นสัญญาณเตือนของโรคกรวยไตอักเสบ มีการอักเสบติดเชื้อ หรือมีนิ่ว มีเนื้องอกอุดกั้นในทางเดินปัสสาวะ แต่ถ้าเป็นโรคไตเสื่อมจะไม่มีอาการปวด คนไข้ที่มีอาการปวดหลังส่วนใหญ่ อาจปวดจากกระดูกหรือกล้ามเนื้อซึ่งไม่ใช่โรคที่เกี่ยวกับไตเลยก็ได้ โดยวิธีสังเกตและจำแนกอาการปวด คือ ถ้าเป็นการปวดหลังจากกระดูกหรือกล้ามเนื้อจะมีบางท่าที่สบาย ไม่ปวด เช่น นอนตะแคงแล้วไม่ปวด แต่พอขยับจะรู้สึกปวด ส่วนในกรณีของการปวดที่เกิดจากความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่นมีนิ่ว มีเนื้องอกในไต กรวยไตอักเสบนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในท่าไหนก็มักจะปวดตลอดเวลา
อาการแบบไหนที่เข้าสู่โรคไตในภาวะวิกฤต ?
ความผิดปกติของปัสสาวะและอาการผิดปกติทางร่างกายที่กล่าวมาข้างต้น เป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่บอกให้ชวนสงสัยได้ว่า ผู้ที่กำลังมีอาการเหล่านี้เป็นผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคไตอยู่ แต่ทั้งนี้ หากพบความผิดปกติดังกล่าวร่วมกับมี อาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ร่างกายซีดเซียว และเบื่ออาหาร ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกได้ว่า ไตของเรากำลังอยู่ในภาวะวิกฤตแล้ว ควรรีบเข้ามาพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาทันที
ซึ่งสำหรับโรคไต รวมถึงโรคแทบทุกชนิดนั้น ยิ่งสังเกตอาการได้เร็วมากเท่าไหร่ รู้เร็วมากแค่ไหน โอกาสที่จะรักษาหายหรืออาการทุเลาลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเจ็บตัวมาก ไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลมากก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
Go to full version