งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร์: Ford Everest & Ranger คันไหนน่าใช่..คันไหนถูกใจกว่า?Ford Everest ใหม่รถยนต์อเนกประสงค์ PPV/SUV ที่หลายคนอยากเป็นเจ้าของด้วยความหรูหรา เทคโนโลยีและการปรับปรุงใหม่หมดทั้งคัน ทำให้กลายเป็น 1 ในรถที่มีความนิยมมากที่สุด และสำหรับ Ford Ranger ใหม่ รถกระบะพันธุ์แกร่งเทคโนโลยีล้ำกับความกว้างขวางและออปชั่นสะดวกสบายเทียบเท่าในเอเวอร์เรสต์ ทั้ง 2 รุ่นนี้จะขับดีแค่ไหน จะมีฟังก์ชั่นอะไรโดนและไม่โดนใจบ้าง ความรู้สึกหลังได้ลองขับจะแตกต่างกันแค่ไหน ติดตามได้ในคลิปนี้ครับ
ทีมงานเช็คราคาได้รับรถยนต์ Ford ทั้ง 2 รุ่นคือ Everest Titanium+ 4X4 10AT ราคา 1,854,000 บาท นับเป็นรุ่นสุงสุด ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Bi-Turbo กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร กับเกียร์ 10 สปีด และมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วน Ranger เป็นรุ่น Double Cab Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT ราคา 1,049,000 บาท นับเป็นรุ่นรองลงมาและเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Single Turbo กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 405 นิวตันเมตร เกียร์ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง
ในการทดสอบครั้งนี้จะให้ทีมงาน 2 คนได้สัมผัสทั้ง 2 รุ่นแบบสลับกันขับไปกลับเส้นทางสั้น ๆ กรุงเทพฯ - ชลบุรี และก็มาพูดคุยกันว่า มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างในรถทั้ง 2 รุ่น ด้วยระยะทางรวมในวันที่ทดสอบกว่า 200 กม. มาดูว่า สมรรถนะ ความชอบ ออปชั่น ระบบต่าง ๆ ในแต่ละรุ่นจะถูกใจหรือโดนใจใครมากที่สุดและรุ่นไหนที่ทีมงานคิดว่าเหมาะกับใครมากที่สุด
แม้ว่าทั้ง 2 รุ่นจะเป็นรถที่มีตัวถังความแตกต่างกันแต่ FORD สามารถเซทให้การทำงานของระบบเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ห้องโดยสาร อุปกรณ์ฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ รวมถึงระบบความปลอดภัยที่เรียกว่าแทบจะไม่ต่างกันเลยครับ
ในรถกระบะเรนเจอร์ที่ดูบึกบึนและช่วงล่างด้านหลังที่เป็นแหนบ แต่กลับให้ความนุ่มนวล สบายในการขับขี่ทั้งทางเรียบและทางขรุขระได้อย่างดี อาจบอกได้ว่าเหนือกว่ารถกระบะในระดับเดียวกัน และระบบพวงมาลัยแม่นยำ น้ำหนักเบา กระชับขับขี่ง่าย สิ่งที่ชอบมากที่สุดคือ เมื่อขับแล้วรู้สึกเหมือนขับรถเก๋งทั่วไป มุมองวิสัยทัศน์ดี การใช้งานปุ่มต่าง ๆ ก็ง่ายและสะดวก
ในขณะเดียวกัน ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นนี้ทดสอบนี้ก็ยังมีจุดที่คิดว่าควรปรับเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เช่น พวงมาลัยแม้จะเบาขับง่ายที่ความเร็วต่ำ แต่ความเร็วสูงนั้นก็อาจจะเบาเกินไป ทำให้วอกแวกง่าย ต้องเกร็งมือพอสมควร ประกอบกับช่วงล่างที่นุ่มสบายเทียบเท่ารถเก๋ง ทำให้ไม่รู้สึกเหมือนกำลังขับรถกระบะขนาดใหญ่อยู่ จึงอาจจะเผลอขยับพวงมาลัยแรงเกินไปบ้าง และอีกเรื่องที่สำคัญมากนั่นคือ ความประหยัดที่ยังไม่ค่อยประหยัดเท่าไหร่นัก แต่แลกกับสมรรถนะอันโดดเด่นขนาดนี้ก็นับว่า "เจ๊า" กันไปครับ
มาถึง SUV/PPV สุดหล่อหรู อุปกรณ์ครบครัน เอเวอร์เรสต์ ที่นับเป็นรุ่นท็อปสุดแล้ว จึงมีฟังก์ชั่นใช้งานที่เกินมาตรฐานมาค่อยข้างเยอะและนับเป็นเจ้าแรกที่มีระบบช่วยจอดและเกียร์ไฟฟ้าในรถระดับเดียวกันในไทยอีกด้วย และมีจุดที่มาตรวัด จอกลางขนาดใหญ่ และโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานที่เยอะมากจนไม่รู้จะเลือกโหมดไหนดี!
โดยรวมแล้ว ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ น่าจะเป็นรถที่ให้ความนุ่มนวลและมีความสะดวดสบายมากกว่าในเรนเจอร์อยู่มากมายเลยครับ แต่ในขณะเดียวกันการขับขี่นั้นจะเน้นความนุ่มสบาย ภูมิฐานหรือเน้นการเดินทางและมีผู้โดยสาร จึงให้ความนุ่มนวลทั้งอัตราเร่งและช่วงล่างเป็นหลัก หากใครที่ชอบอารมณ์ขับแบบ "ดิบดิบ" สนุกเร่งแรงกระชากใจคงต้องทำใจครับ แต่ว่าเอเวอร์เรสต์ขณะที่เร่งนั้นไม่ใช่ว่า "อืดอาด" ความเร็วพุ่งทยานอย่างรวดเร็วทันใจไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าจำนวน "เกียร์เยอะถึง 10 จังหวะ" จึงทำให้การไต่ความเร็วเป็นไปด้วยความราบรื่นจนไม่รู้สึกว่ากำลังทำความเร็วนั่นเองครับ
สรุปว่าทั้ง Everest Titanium+ 4X4 10AT ราคา 1,854,000 บาท และ Ranger เป็นรุ่น Double Cab Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT ราคา 1,049,000 บาท เป็นรถที่แตกต่างกันด้านการใช้งาน ใครชอบแบบไปทดลองขับและเลือกให้ตรงกับการใช้งานเพื่อความคุ้มค่ามากที่สุดครับ